![]() |
ภาพ 6.1 การจัดการสารสนเทศและระบบสารสนเทศ |
ความสำคัญของระบบสารสนเทศ ปัจจุบันมักจะพูดถึงระบบสารสนเทศกันมาก การดำเนินงานเกือบทุกขั้นตอนจะต้องมีสารสนเทศเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เช่น ร้านค้าขายสินค้าก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการขาย เป็นต้น หน้าที่ของระบบสารสนเทศ ปัจจุบัน ระบบสารสนเทศ (Information System) มักเตรียมได้จากระบบคอมพิวเตอร์ จึงเรียก ระบบสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์ (CBIS : Computer-based Information Systems) ซึ่งก็คือ ระบบสารสนเทศที่ได้จากการใช้คอมพิวเตอร์ทำหน้าที่ในการรับข้อมูล ประมวลผลและส่งผลลัพธ์ออกมาและทำการประเมินผลสารสนเทศเพื่อนำผลย้อนมาปรับปรุงข้อมูล เพื่อให้ได้สารสนเทศตามที่องค์กรต้องการ ประโยชน์ของระบบสารสนเทศ
1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
2. เพิ่มผลผลิต
3. เพิ่มคุณภาพในการบริการลูกค้า
4. สร้างทางเลือกในการแข่งขัน คุณสมบัติของสารสนเทศที่ดี
1. มีความถูกต้องเชื่อถือได้
2. สามารถตรวจสอบได้
3. มีความสมบูรณ์
4. ทันต่อการใช้งาน ทันสมัย
5. กะทัดรัด
6. ตรงประเด็นหรือตรงตามความต้องการ การจัดโครงสร้างของระบบสารสนเทศ การจัดการโครงสร้างของระบบสารสนเทศมีลักษณะคล้ายรูปปิรามิด จากส่วนล่าง แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้
1. สารสนเทศที่ได้จากการประมวลผลรายการ
2. สารสนเทศสำหรับวางแผนการปฏิบัติงาน
3. สารสนเทศสำหรับวางแผนยุทธวิธี
4. สารสนเทศสำหรับการวางแผนกลยุทธ์ ประเภทของปัญหาขององค์กร
1. ปัญหาแบบมีโครงสร้าง เป็นปัญหาที่เกิดจากงานประจำเกิดขึ้นซ้ำๆ
2. ปัญหาแบบกึ่งโครงสร้าง เป็นปัญหาแบบมีโครงสร้างแต่บางส่วนเป็นแบบไม่มีโครงสร้าง
3. ปัญหาแบบไม่มีโครงสร้าง เป็นปัญหาซึ่งไม่กำหนดวิธีการแก้ปัญหาและเป็นปัญหาที่ไม่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ระบบสารสนเทศแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
1. ระบบประมวลผลรายการ (TPS : Transaction Processing Systems)
2. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS : Management Information Systems)
3. ระบบสารสนเทศสำนักงาน (OIS : Office Information Systems)
4. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (DSS : Decision Support Systems)
5. ระบบสนับสนุนผู้บริหารระดับสูง (ESS : Executive Support Systems) การพัฒนาระบบสารสนเทศ หมายถึง กิจกรรมต่างๆ ที่ทำขึ้นเพื่อสร้างระบบสารสนเทศขึ้นในองค์กรไม่วาจะเป็นการสร้างระบบใหม่หรือปรับปรุงระบบเดิมที่มีอยู่แล้วให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ บุคลากรที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบสารสนเทศ
1. ผู้ใช้ระบบ (Users)
2. นักวิเคราะห์ระบบ (SA : System Analyst)
3. นักออกแบบระบบ (SD : System Designer)
4. โปรแกรมเมอร์ (Programmer) ส่วนประกอบที่สำคัญของการพัฒนาระบบสารสนเทศ การพัฒนาระบบสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบใหม่หรือการปรับปรุงระบบงานเดิมให้ดีขึ้นจะมีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน คือ
1. การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis)
2. การออกแบบระบบ (System Design)
3. การพัฒนาและติดตั้งระบบเพื่อใช้งาน (System Implementation)
สรุป ความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันทำให้มีการตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้งาน โดยเฉพาะในภาคธุรกิจได้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ เป็นเครื่องมือในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องการดำเนินงานทุกระดับในองค์กร สารสนเทศเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานขององค์กรในยุคปัจจุบัน ระดับผู้ปฏิบัติงานจะใช้สารสนเทศในการปฏิบัติงานประจำตามหน้าที่ที่รับผิดชอบผู้บริหารต้องการใช้สารสนเทศในการวางแผนและสนับสนุนในการตัดสินใจ ผู้บริหารต้องตระหนักถุงความสำคัญและความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีมาใช้ส่งเสริมศักยภาพในการดำเนินงานขององค์กร จึงต้องมีการนำเทโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างสารสนเทศที่ต้องการ แต่ความต้องการสารสนเทศที่ค่อนข้างละเอียดเพื่อนำสารสนเทศที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงการปฏิบัติงาน ผู้บริหารระดับกลางมีหน้าที่คอยควบคุมดูแลให้งานต่างๆ เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ต้องการสารสนเทศเพื่อใช้ในการวางแผนระยะสั้นและใช้ในการสนับสนุนการตัดสินใจ ส่วนผู้บริหารระดับสูงมีหน้าที่วางแผนกลยุทธ์ต้องการสารสนเทศเพื่อใช้ในการวางแผนระบะบางหรือกำหนดนโยบายขององค์กรและสนับสนุนการตัดสินใจ ดังนั้นความต้องการสารสนเทศของผู้บริหารแต่ละระดับจึงไม่เหมือนกัน ถึงแม้จะมาจากฐานข้อมูลเดียวกันก็ตาม ผู้บริหารองค์กรนับว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการที่จะพัฒนาระบบสารสนเทศของตนเองให้มีความทันสมัยและนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4 ความคิดเห็น:
การมีระบบสารสนเทศทำให้สามารถวางแผนและทำงานได้อย่าเป็นระบบ จิงๆ!
รูปสวยค่ะ ส่วนด้านเนื้อหา อ่านแล้ว ได้ความรู้ค่ะ
ขอบใจจ้า ที่ทำให้ได้ความรู้
ขอบคุณค่ะ กับความรู้การจัดการสารสนเทศและระบบสารสนเทศ
แสดงความคิดเห็น